วันอังคาร, กุมภาพันธ์ ๐๖, ๒๕๕๐

ผู้ต้องสงสัย

ผมบอกคุณแล้วไงครับ คุณตำรวจ ว่าผมได้ลืมกระเป๋าไว้จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจให้บ้านเมืองวุ่นวายและไม่ได้เป็นพวกก่อกวน อีกทั้งไม่ต้องคิดเลยว่าผมเป็นพวกคลื่นใต้น้ำ หากจัดหมวดผมไว้ได้ ผมขอเป็นนักดูนกนั่นแหละ ก็ผมบอกแล้วว่าในกระเป๋าดำใบนั้นมีเพียงกล้องส่องและคู่มือดูนกอีกสามเล่ม แต่ไม่รู้เลยจริงๆ ว่ามันหายไปไหน?
ผมเป็นคนขี้ลืมเป็นว่าเล่นเลยแหล่ะ ทว่าไม่ถึงกับเล่นขี้หรอก… ไม่ได้พูดเล่นสนุกกับความตื่นตกใจของชาวบ้านเขาน่ะ สาบานได้ ผมว่าใครที่ตั้งใจเล่นล้อกับเรื่องพรรค์นั้นในห้วงเวลานี้ มันคงไม่ใช่คนแน่ๆ หรือมันอาจเป็นคนในคราบผีห่าอะไรสักอย่าง อย่าว่าแต่คุณตำรวจเลย ถ้าใครตั้งใจทำแบบนั้น ผมจะกระทืบมันให้ไส้แตกเลย เอาสิ ประเทศเขาต้องการความสามัคคีกันอยู่มันมากวนให้เสียชาติแห่งความสงบได้ไง
ผมไม่ได้อยู่ฝ่ายไหนทั้งนั้นแหล่ะครับ ขบวนการไล่คนสำคัญคนก่อนผมก็ไม่ได้เข้าร่วมกับเขา แต่ไม่ได้หมายความว่าผมไม่ได้รักชาติ หรือไม่มีใจสีเหลืองน่ะครับ คุณไม่ต้องคิดจะถามต่ออีกน่ะว่า งั้นผมอยู่ฝ่ายคลื่นใต้น้ำหรือ ผมก็ไม่เคยเกี่ยวดองกับญาติคะแนนเสียงของเขาฝ่ายไหนเลย ผมไม่สังกัดพรรคการเมืองใดเลยทั้งสิ้น ผมไม่เห็นมีความจำเป็นด้วยว่า ตัวผม สังคมนี้หรือโลกนี้ หากขาดนักการเมืองแล้วพวกเราจะพากันแห้งตายลงเพราะล้าหลังหรือไม่เจริญ อีกความวุ่นวายไม่ต้องคิดอีกนั่นแหล่ะ ผมว่าคนจำพวกนี้ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้บนผืนดินนี้ แต่ก็ว่าก็ว่าเถอะ เขาก็เป็นคนเช่นเดียวกับผม มีค่าพอๆ กับนักดูนกอย่างผมด้วย… ก็เท่านั้น
อันที่จริงแล้ว ผมไม่ถึงกับเชี่ยวชาญชำช่องว่านกตัวไหนเสียงอย่างไรไปทั้งหมดหรอก ขนาดสีนกใกล้บ้าน ผมก็จำไม่ได้หมดหรอก สารภาพจริงๆ ผมเป็นมือใหม่หัดเอาดีทางนี้ วันๆ ผมก็ไม่ทำอะไรนอกจากเข้าป่าไปส่องนก เดินทอดเท้าสบายๆ ตามชายป่า ผิวปากเป็นเพลงไปเรื่อย ซึ่งมาคิดดูอีกทีผมว่า กิจกรรมเช่นนี้ก็ไม่น่าจะเป็นอาชีพกระทั่งใส่คำว่านักนำหน้าได้ ใช่! มันไม่จำเป็นต้องมีบนโลกเช่นนักการเมืองก็ได้… ผู้กำกับพูดถูกครับ แต่นักอย่างผมก็ไม่เคยคิดจะทำร้ายคนอื่น ขนาดนกผมยังไม่กล้าทำเสียงรบกวนมันเลย ฉะนั้นอย่าหวังว่าผมจะไปทำร้ายต้นไม้ใบหน้าตัดป่าให้ราบไปด้วย เพราะหากผมทำดังนี้เท่ากับผมทำลายความสุขของผมเอง…
ไม่น่ะ ผมไม่ได้ออกนอกเรื่องน่ะ ผมเพียงจะอธิบายถึงความจริงที่ผมเป็น และขอบอกไว้อีกอย่างว่า นักแบบผมนี้ ไม่เคยมีใครคิดอยากเติมสุไปข้างหน้าเช่นนักการเมือง! ไม่เลยครับท่าน ผมไม่ได้ตั้งใจจะกวนตีนท่านหรอก จะให้ผมเล่าว่าผมเป็นมาอย่างไรหรือครับ ว่าทำไมมาลืมกระเป๋าไว้ตรงนี้ ไม่น่ะ ผมลืมจริงๆ ผมเล่าไปแล้ว แต่หากท่านจะให้เล่าอีกครั้งก็ได้…
เรื่องมันมีอยู่ว่า กระเป๋าเป๋ใบดำยี่ห้อติ๊งต๊องของปลอมนั้น ผมใช้มานานแล้ว ผมตั้งใจเข้าเมืองมาซื้อคู่มือดูนก และตั้งใจจะต่อรถที่หมอชิตไปอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ออ ผมมาจากชายแดนของเชียงราย คุณตำรวจอย่าเหมารวมน่ะว่า เป็นพวกเดียวกันกับคลื่นใต้น้ำ ผมมีแต่คลื่นไส้ไปใหญ่เมื่อได้ยินชื่อนี้ จะให้ผมเล่าต่อไหมล่ะ ผมรอรถที่ป้ายรถเมล์แถวอนุสาวรีย์พอดีเห็นหญิงสาวงามตาคนหนึ่งเดินผ่านมา สาบานได้คุณตำรวจ หล่อนหันยิ้มข้ามไหล่ขาวแจ่มที่เกี่ยวเส้นสายเดี่ยวมาหาผม ผมจึงยิ้มตอบแล้วก็ตามเธอขึ้นรถเมล์ไป ผมดูก่อนแล้วว่า ไอ้รถเมล์สายที่เธอขึ้นนั้นไปทางหมอชิต ผมจึงพรวดขึ้นรถไปเลย มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนเธอลงหายไปแถวสะพานควาย ผมจึงตามลงมา แต่เธอหายไปแล้ว เธอหายไปทางไหนก็ไม่รู้ ผมจึงได้สติว่าลืมกระเป๋าเอาไว้ที่ป้ายรถเมล์
คุณตำรวจไม่สุภาพเลยที่ดูถูกว่า หน้าตาผมไว้หนวดเคราเหมือนผู้ก่อการร้ายแล้วจะมีสาวที่ไหนมามอง ผมขอให้ท่านขอโทษผมเดี๋ยวนี้เลย มันเป็นถ้อยคำที่ไร้มนุษยธรรมมากเลย ไม่รู้หรือว่า ด้วยถ้อยคำประนามต่างๆ แบบไม่ยั้งคิดนี้แหล่ะเป็นต้นเหตุของสงคราม ความวุ่นวาย และเป็นบทเรียนให้คนสำคัญคนก่อนโดนปฏิวัติด้วย ทำไมผมจะพูดเรื่องนี้ไม่ได้ โอเค คุณตำรวจขอผม ผมยินดีจะพูดเบาๆลง หากท่านขอโทษผมด้วย…
ให้เล่าต่อใช่ไหม ก็เมื่อผมไปถึงตรงอนุสาวรีย์ชัยผมเห็นคนแตกตื่นวิ่งหนีอะไรก็ไม่รู้กระจายกันไปให้วุ่น แต่ผมก็ยังเดินฝ่าเข้าไปตรงป้ายรถเมล์ที่ผมเคยนั่ง ผมหามันจนเจอ แต่ผมก็เข้าไปไม่ได้ มีตำรวจทหารกั้นไว้หมด ผมยังโดนไล่อีกต่างหากว่า ผมจุ้นจ้าน ไม่รู้อะไรเลย ผมก็ตอบออกไปว่า ผมรู้แน่นอนว่ากระเป๋าที่เจ้าหน้าที่ถือเหล็กปลายติดจานเรดาร์สำรวจอยู่นั้นมันกระเป๋าผม นายตำรวจนั้นก็ยังไม่เชื่อ ยังไล่ผมไปอีกว่า ไอ้บ้า! ให้หนีไปห่างๆ ผมโมโหมาก อยากจะกระโจนเข้าใส่ ทว่าแกมีปืนอยู่ในมือ ผมเลยต้องถอยมารออยู่ไกลๆ
เมื่อผมหันหลังกลับมาอีกที ได้ยินเสียงคนโห่ร้องอย่างประหลาดใจ นักข่าววิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไป ถ่ายรูป คุณตำรวจเองก็ว่า คุณก็เห็นมัน เหล่านกพิราบขาวบินออกมาจากกระเป๋าของผม ทุกคนเขาเห็นกัน ใช่ มีข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์แน่นอน ยกเว้นโดนสั่งห้ามลงพิมพ์ แต่ผมไม่เห็นนกห่าอะไรเลยสักตัว อันที่จริง ผมนี้ประสาทไวต่อเสียงและสีหรือกลิ่นของนกมากเลย แต่ผมไม่เห็นจริงๆ
แล้วคุณตำรวจจึงคิดจะตั้งข้อหาสร้างความวุ่นวายต่อความมั่นคงของชาติกับผมหรือ ผมอธิบายไม่ได้จริงๆ ว่านกพิราบที่คนทั้งหมดเห็นนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ผมก็บอกไม่ได้จริงๆ ว่าของในกระเป๋าผมมันหายไปไหน ทว่าเรื่องสำคัญที่สุดคือว่า ผมลืมกระเป๋าไว้ ไม่ได้ตั้งใจจะก่อกวน ผมว่าผู้กำกับน่าจะปล่อยผมไปดีกว่า ผมสั่งตัวเองไว้แล้ว และจะสั่งญาติมิตรพี่น้องด้วยว่า อย่าเที่ยวไปลืมกระเป๋าไว้ในเมืองไหนๆเลยครับ นอกจากของมีค่าของคุณจะหายแล้ว คุณอาจจะกลายเป็นผู้ต้องหาคดีบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติก็เป็นได้
อะไรน่ะครับ คุณตำรวจ คุณจะปล่อยผมไปจริงๆ แล้วใช่ไหม อะไรน่ะ?! จะปล่อยให้ผมไปพักสงบในม่านลูกกรงหรือครับ
อย่าทำผมเลย… ผมขอร้อง ผมไม่ได้สร้างเหล่านกพิราบและความวุ่นวายที่ท่านเห็นมา ผมขอเตือนว่า ให้ท่านคิดดีๆ หากผมสามารถเสกนกออกจากกระเป๋าแทนเสียงระเบิดตูมตามได้ ไม่งั้นผมก็เสกให้ผมหายตัวไปแล้วล่ะ?!



'รัตน์ คำพร : เขียน